1
ทริปเดินป่า เขาช่อใหญ่ สำหรับทริปเขาช่อ จุดการเดินนี้จะมี 2 จุดพักแรมครับ โดยทั่วๆไปที่ผมรีวิวให้เห็นในปีก่อนๆหรือทริป เขาช่อ จะเป็นที่พักสำหรับช่อเล็กครับ แต่สำหรับโพสนี้จะเป็นทริปเดินป่าสำหรับ ช่อใหญ่ หรือก็คือเดินต่อไปอีกนะครับ ด้วยจุดพักแรมและจุดชมวิวที่สูงกว่า ช่อเล็กครับ
ด้วยการสำรวจของเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม นำมาซึ่งทริปเปิดป่าช่อใหญ่ ที่แสนดีกว่าช่อเล็กคือมีน้ำซับ ให้เราได้ใช้ ถึงน้ำจะยังไม่มากแต่จุดนี้ก็เป็นจุดที่ดีกว่าจุดเดิมที่ไม่มีน้ำครับ
สำหรับจุดเดิมเขาช่อเล็กหากจะเอาน้ำต้องรีบไปให้ถึงเร็วๆก่อนค่ำ เพราะต้องเดินต่อไปเพื่อเอาน้ำครับ สำหรับการเดินทางก็เป็นจุดเดินขึ้นจุดเดียวกัน ทางเดินก็ทางเดียวกันกับช่อเล็กเลยครับ ดังนั้นรูปภาพระหว่างทางอาจจะคุ้นๆบ้างสำหรับคนที่เคยไปช่อเล็กแล้ว หรือ เคยดูรีวิวเขาช่อ อันเก่ามาแล้ว
วิวสำหรับ เขาช่อใหญ่ ดูน่าสนใจใช่ไหมครับยังไงลองดูรายละเอียดของทริปและคำแนะนำจากเว็บของเราได้เลยครับ
สำหรับรายละเอียดการเตรียมตัวอื่นๆ ผมอยากให้ศึกษาบทความรีวิวจากเขาช่อเล็ก ก่อนครับ
เมื่อพร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยครับ
เมื่อออกจากหน้าหน่วยมา ก็จัดแจงเตรียมสะเบียงกันอีกรอบครับ น้ำขนม จะตุนอะไรก็จัดกันมาเลย แบกแป๊บๆเดียวก็เบาครับ
หลังจากเราเตรียมน้ำขนม อาหารกลางวันกันเรียบร้อย ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ยอดเขา เขาช่อใหญ่ กันครับ
เราออกตัวแถวๆสำนักสงฆ์ ครับแต่ทางไปเราจะไม่ตัดผ่านที่สำนักครับ จะวิ่งเรียบๆทางไปครับ สภาพป่าตอนผมไปถือว่าเริ่มมีความสมบูรณ์กลับคืนมาแล้วครับ ใบไม้ช่างเขียวเหลือเกิน แต่มีบางจุดที่ปีก่อนผมเดินไปเขาช่อ ลำธารบางจุดมีน้ำ แต่มาปีนี้ไม่มีน้ำครับสงสัยผมมาเดินไวกว่าปีที่แล้วแน่เลย
จุดพักจุดแรกจะเป็นลำธารใหญ่ สายแรกครับแต่จะมีลำธารที่ต้องเดินข้ามมาด้วยครับ จุดนี้สามารถลงนั่งแช่น้ำได้เลยครับ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาเลยครับ พักกันสักแป๊บนึงและรอลูกทีมมากันให้ครบ จะได้ไม่หลงทางกัน
เมื่อพักกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อกันครับ
นี่ก็เป็นจุดพักอีกเช่นกันครับ สำหรับทริปเขาช่อ หรือ ทริปเขาช่อใหญ่นั้น จะมีจุดพักที่ลำธารใหญ่ๆแบบนี้เป็นระยะครับ โดยทั่วไปจะพักอยู่ 3-4 ครั้งครับแต่ลำธารสุดท้ายจะจัดแจงทานข้าวเช้า กรอกน้ำ และเตรียมลุยกันต่อครับ
ลำธารสุดท้ายก็จะเป็นท้ายสุดที่จะมีน้ำครับ ดังนั้นต้องกรอกเต็มไว้ก่อนสำหรับคนที่กินน้ำบ่อยยิ่งขาดไม่ได้ครับ เพราะต่อจากนี้แล้วจะเป็นทางที่ต้องเดินขึ้นตลอดทาง เดินขึ้นตลอดทางจริงๆครับ เหมือนเรากำลังจะเริ่มเดินขึ้นตึก 100 ชั้นก็กว่าได้ครับ
หลังจากเดินหลุดจากลำธารสุดท้ายมาได้สักระยะก็จะเจอกับป่าแขม หญ้าพวกนี้เหมือนจะเป็นต้นที่เราเอาดอกไปทำไม้กวาดครับ ช่วงที่ผมไปสูงเลยหัวผมไปแล้วครับ ดังนั้นเดินขึ้นก็จะร้อนๆหน่อยอบๆหน่อยครับ
ถ้าเพื่อนๆเดินจนเจอเจ้าต้นแขมแล้ว ก็อยากให้ทำใจว่าต่อแต่นี้ไปจนถึงยอดเขา เราจะเจอแต่ต้นแขมตลอดทางครับ ทั้งเดินทั้งมุดกันเลยครับ
ถุงมือ ช่วยในการชุดกระชากลากดึงเอาตัวเองขึ้นไป เนื่องจากบางจุดเป็นทางชันต้องดึงตัวกับต้นแขมขึ้นไปครับจึงเป็นที่มาที่ว่าความสำคัญของถุงมือครับ
สำหรับ หมวก ก็ป้องกันแดดในช่วงนี้ได้ดีครับ ถ้าร้อนก็เอามาผัดได้ครับ
สำหรับ ปลอกแขน ก็ป้องกันหญ้าแขมบาดครับ ส่วน ปลอกคอ ก็ป้องกันหญ้าแคมบาดคอเช่นกันครับ เนื่องจากในปีนี้หญ้าสูงขึ้นมากครับ
แนะนำตัว พี่ลอย เจ้าหน้าที่ดูแลการเดินทางในทริปนี้ครับ
ทริปนี้ผมลอกฝรั่งมาเดินกับผมด้วยนะครับ 1 คน พี่คนนี้จะชวนไปเดินป่าด้วยกันบ่อยๆครับ ชวนบ่อยๆแต่ว่างไม่ค่อยจะบ่อย จากรูปนี้ก็ขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วครับ แต่จุดนี้จะเป็นเขาช่อเล็ก หรือ เขาช่อ ปกติที่เรียกๆกันนี่แหละครับ
แต่เราต้องเดินทางต่อไปอีกครับ เพื่อไปยังเขาช่อใหญ่ แต่ไหนๆก็ผ่านทางนี้แล้วก็แวะถ่ายรูปกันสักนิดครับ
สองข้างทางจะพบเห็ดแปลกๆมากมายครับ และบางจุดก็ขึ่นเยอะกว่าปกติเสียด้วยครับ เลยเก็บภาพเห็ดระหว่างทางมาฝากครับ ทริปนี้รูปเห็ดน้อยมากครับ เพราะหนื่อยมากครับรวมกับฝนทำท่าจะตกอย่างเดียวเลย ก็เลยจำเป็นต้องเก็บกล้องครับ
เราเดินทางต่อจาก เขาช่อ เพื่อไปยังเขาช่อใหญ่ ทางผ่านก็จะเห็นดินโป่ง ที่สัตว์มากินครับ เห็นแล้วก็รู้สึกได้เลยว่า รีบๆเดินไปดีกว่ายังไม่อยากเจอตัวอะไร
เดินกันต่อจากช่อเล็กได้สักพักก็ถึง ช่อใหญ่ครับ เมื่อถึงแล้วก็ต้องรีบจัดแจงหาที่พักกางเต้นท์ผูกเปล กันก่อนเลยครับผูกเสร็จก็จะเป็นเรืองของอาหารครับ น่าเสียดายช่วงที่ผมไปฝนลงมาไวเหลือเกินครับ ตอนทำอาหารผมเลยเปียกหน่อย วิ่งกางฟรายชีท เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยครับ
พอตอนเช้าก็เดินต่ออีกนิดไปยังจุดชมวิวเขาช่อใหญ่ครับ ไม่ขออธิบายอะไรเพิ่มเติมนะครับดูรูปวิวไปได้เลยครับ