1
สวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม ไทยพ๊อคเก็ต อยู่สำหรับทริปนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยว ภูทับเบิก ที่ๆใครๆก็รู้จัก แต่ทริปนี้ที่ผมพาไปเราไม่ได้พาเพื่อนๆไปในหน้าหนาว แต่เราจะพาไปช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือในช่วงหน้าฝนครับ
เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าหมอกที่ภูทับเบิกในหน้าฝนนั้นสวยไม่แพ้หมอกหน้าหนาวเลยครับ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าหน้าฝนผืนป่าก็จะเห็นหมอกเหมือนกันนะครับ แต่เขาจะเรียกว่าหมอกฝนครับ การเดินทางไปเที่ยวภูทับเบิก ใช้เวลาการเดินทางอยู่ 3-4 ชมหรือมากกว่านั้น อยู่ที่ความเร็วในการขับครับ
สำหรับการเดินทาง ผมอาจจะขอข้ามไปนะครับ เพราะหลายๆคนอาจจะเคยไปกันแล้วและ หาทางไปช่างง่ายแสนง่าย ผมจะกลับมาปรับในส่วนของการเดินทางเพิ่มให้ในวันหลังครับ สำหรับวันนี้ขอเล่าด้วยภาพ ก่อนละกันครับ
ทริปนี้ค่ากางเต้นท์ 60 บาทครับ
ค่าเช่าผ้าห่ม 50 บาทครับ
ส่วนเต้นท์เราเอาไปเองครับ เลยลดงบประมาณลงไปได้ครับ
รวมทั้งทริป 10 คนกินอาหารแบบเต็มพิกัด ค่าใช้จ่ายตกคนละ 1,300 บาทครับ
เริ่มด้วยการเดินทาง กับทางทีมงาน ไทยพ๊อคเก็ต และอาสาพาสนุก ทริปนี้เราพากันไป 10 คนครับ รับรองหากใครได้ไปด้วยกันกับพวกเราสนุกทุกทริปครับ เราเดินทางกันด้วยรถ 2 คันครับแบ่งๆกันนั่งไปครับผม
โดยมีคันนึงเป็นรถกะบะครับ บางทีการขนของอะไรเยอะๆ ขับรถขึ้นเขาเราก็ต้องเตรียมพร้อมเรื่องรถด้วยนะครับ เอารถเล็กๆไปได้ไหมบอกเลยว่าไปได้ครับ แต่อาจจะดูน่าสงสารหน่อย
เราออกเดินทางโดยนัดหมายกันที่ เค๊กบ้านสวน โดยนัดเวลากันในตอนเที่ยงคืนครับ เราออกเดินทางไปเจอกันยังจุดนัดหมาย ที่ต้องออกตอนกลางคืนเพราะ การขับรถในตอนกลางคืนรถจะน้อย อากาศไม่ร้อน และช่วยเพิ่มเวลาในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ แต่ทั้งนี้ต้องหาคนขับที่ไว้ใจได้สักหน่อยนะครับ เพราะเวลาพักจะมีน้อยลงครับ
เราไปถึงจุดมุ่งหมายในตอนเช้ามืดครับ และได้แวะไปที่ วัดผาซ่อนแก้ว ก่อนครับพอไปถึงเหมือนจะไปถึงเป็นคนแรกในวัดเลย มืดสนิทแต่ก็ยังเห็นแสงไวที่สองไปยังวัดให้สวยงาม แต่เสียดายผมไม่ได้เก็บรูปมาฝากครับ สำหรับวัดผาซ่อนแก้ว ผมจะขอแยกโพสไปเป็นอีกโพสนึงนะครับ (โพสนี้เฉพาะภูทับเบิกเลย)
หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยวและออกจากวัดมา ก็ประมาณ 8.00 น ได้ในตอนเช้าครับ เราก็รีบขับไปยังภูทับเบิก เพื่อหาข้าวเช้าทานกันก่อนหาที่พักครับ
เมื่อเข้าสู่เขต ภูทับเบิก ช่วงขาขึ้นเพื่อนๆก็จะพบกับทางขึ้นที่สุดแสนจะสวยงาม เต็มไปด้วยหมอกบนถนน เป็นช่วงๆ สำหรับช่วงนี้ต้องขับรถอย่างระมัดระวังนะครับ เพราะว่าอาจจะมีรถสวนทางลงมาด้วย และโค้งที่ภูทับเบิกก็เยอะใช่ย่อย รวมไปถึงความลาดชัดที่ต้องพบเจอด้วยครับ
นอกจากจะเจอรถสวนทางแล้ว เราอาจจะได้พบเพื่อนรวมทริป เป็นจักรยาน ก็มีครับพี่คนนี้ เราก็ได้คุยกันอีกครั้งตอนกางเต้นท์เลยครับ ผมหละปั่นสู้ไม่ได้เลยครับ
เมื่อผมขึ้นไปถึงจุดพักรถ และจุดก่อนแยกเข้าที่ตั้งเต้นท์ ตรงนี้ก็จะมีจุดชมวิว และร้านขายของ ขายผัก ผลไม้อยู่ด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟด้วยนะครับ ผมเลยแวะถ่ายรูปเอาวิวในจุดนี้มาฝากครับ ก่อนเดินทางกันไปต่อยังที่พัก ที่กางเต้นท์
ผักผลไม้มากมาย ผมไม่รู้ว่าราคาที่นี่แพงหรือป่าวนะครับ แต่เท่าที่ดูบางรายการก็ไม่ถือว่าแพงนะครับ เราแวะซื้อมันปิ้ง และข้าวโพดปิ้งกิน พร้อมถ่ายรูปวิวกันต่อ
จากนั้นก็ถ่ายรูปคู่กับป้าย ทางเข้าของภูหินร่องกล้า กันสักหน่อย ก่อนเข้าไปยังภูแผงม้า โดยการเดินทางไปยังภูแผงม้า เราจะต้องเดินเข้าไปยังที่อุทยานครับ ทางเข้าจะอยู่ติดถนน ซึ่งห่างจากป้อมเจ้าหน้าที่ อยู่ 500m ครับ
อันนี้เป็นป้ายแผนผังการท่องเที่ยว หรือที่เที่ยวในบริเวณไกล้เคียงครับ ถ่ายเก็บมาให้ครับ
ป้าย ณ ทางเข้า ภูแผงม้า ครับ อยู่ติดถนนครับ จอดรถไว้ตรงนี้แล้วเดินเข้าไปต่อครับ ระยะทางไม่ไกลไม่ไกลครับ เหมือนเป็นการเดินเขาเล็กๆน้อยๆ สำหรับบางท่านอาจจะจอดไว้ที่ป้อมเจ้าหน้าที่และเดินเข้ามาที่นี่ก็ได้เช่นเดียวกันครับ
การเดินไป ภูแผงม้า ตลอดสองข้างทางก็จะเป็นป่าชุ่มชื้นพอประมาณครับ การเดินไม่ยากครับทางจะมีทั้งขึ้นเนิน หรือขึ้นเขาบ้างเป็นบางช่วงครับ
และแล้วเราก็มาถึง ภูแผงม้า ครับ วิวจุดนี้เป็นจุดที่สวยงามน่าดูเลยครับ จะมีหมอกเข้ามาบ้างเป็นบางช่วงครับ อาจจะต้องรอสักระยะ เราก็ได้เห็นพื้นที่ด้านล่างครับ สวยเลยครับ
เราขึ้นมายังจุดสูงสุดของภูทับเบิก ตรงหอนาฬิกา ที่มีแจ้งเรื่องอุณหภูมิ ก็มีคนมาเที่ยวบ้างไม่ถึงว่าน้อยครับ และก็ไม่เยอะ
หลังจาก วนๆหลายๆที่เราได้กางเต้นท์กันตรงริมหน้าผา ครับเป็นจุดกางเต้นท์ที่เมื่อ สองปีที่แล้วผมมากางที่นี่ครับ ทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังตอนจบ รูปสุดท้ายนะครับ
เดี่ยวนี้มีการทำที่ดูวิว ดูดีกว่าเดิมครับ น่าสนใจเลยทีเดียวครับ
วิวเดิมในแสงตอนเย็นๆ ที่หน้าเต้นท์ของเรา #ภูทับเบิก ครับ
ก่อนจะเดินทางกลับ ก็เดินไปถ่ายรูปกับผักกาดสักหน่อยครับ รูปชุดนี้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก อาจจะไม่ได้สวยมากแต่ก็ถูกใจคนถ่ายครับ วิวสวยดีครับเป็นทุ่งผักกาดครับ ถึงแม้ผักกาดจะยังโตไม่มาก ส่วนด้านหลังก็จะมีสายหมอกไหลผ่านตลอด บางช่วงหมอกมาก็ถ่ายไม่ได้ต้องรอ บางช่วงหมอกไปก็รีบๆถ่ายกัน สวยไปอีกแบบครับ
จบทริปสนุกๆ ด้วยรูปรวมสักนิด อ๋อขาดไป 1 คนคือผมเองคนถ่ายรูปครับ
ขอขอบคุณสมาชิกทุกๆท่าน ที่หาเวลามาเที่ยวและสร้างเสียงหัวเราะ และความสนุกมากมายด้วยกัน เจอกันต่อไปในทริปหน้านะครับ
จดหมายถึงภูทับเบิก
ภูทับเบิก วันนี้เจ้าเปลี่ยนไปมากเพียง 2 ปีก่อนที่ผมไปมา กับปีนี้ 2558 เราไปเจอกันอีกครั้ง มาวันนี้คำว่าธุรกิจ ผุดขึ้นเต็มยอดเขา ยอดดอย ร้านขายของที่เคยเป็นไม้ไผ่ มีเด็กดอย เด็กชาวเขามาเดินขายของขายดอกไม้ วันนี้เปลี่ยนเป็นเสาปูน เสาเหล็ก ปูพื้นกระเบื้องอย่างดี หลังคามีหลากหลายสีสัน อยู่เต็มสองข้างทางของภูทับเบิก
ธรรมชาติที่สวยงามกำลังจะถูกเจือปนไป ด้วย สีของหลังคา และบ้านพักที่หลากหลายรูปแบบ จัดแจงวางเรียงราย แต่ไม่เป็นระเบียบ เหมือนกับว่าเป็นช่วงกอบโกยของเจ้าของพื้นที่หรือผู้ที่เข้ามาลงทุน ท่อนไม้ถุงปูน ปลิวอยู่เต็มพื้นที่ของภูเขา พื้นที่ที่ผมเคยไปกางเต้นท์นอน มาวันนี้พื้นที่ครึ่งหนึ่ง ถูกแปลเปลี่ยนเป็นบ้านพัก บดบังธรรมชาติ ของสายหมอก
ภูเขาถูก ถากถาง มากขึ้นกว่าเดิม หลายอย่างถูกปรับให้ดีขึ้น หลายอย่างถูกปรับให้ดีเกินไป และหลายอย่างเสื่อมลง สำหรับผมจำเป็นต้องนำเสนอในสิ่งที่ผมเจอ และคิดนี่คืออีกถ้านหนึ่ง ของความสวยงามต่างๆนาๆ จากรูปข้างบนครับ หากคุณขึ้นไปยังจุดๆนั้น ถ่ายรูปสวยๆกลับมาแต่หากหันหลังกลับ ณ จุดที่คุณถ่ายรูปแล้วถ่ายอีกมุมนึงกลับ จะเห็นสิ่งที่เรียกว่าความเจริญ แต่เป็นความเจริญที่ไม่เป็นระเบียบเสียเลย
ผ่านไปเพียงแค่ 2 ปีภูทับเบิกเปลี่ยนไปมาก ผมไม่เชื่อสายตาตัวเอง และมีความกลัวอยู่นิดๆว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้ไป เชื่อว่าอีก 5-10 ปีที่แห่งนี้จะมีแต่รีสอร์ทขึ้นเต็มไปหมด กลายเป็นเมืองแห่งที่พักบนภูเขาหัวโล้น พร้อมทั้งตัดไม้และป่า เพิ่มขึนเพื่อปลูกผักกาดให้คนที่มาเที่ยวได้ถ่ายรูป