1
คลองอีเฒ่า ได้ยินแล้วไม่คุ้นหูเลย ทริปนี้เป็นทริปกระทันหัน เนื่องด้วยเพื่อน ติว ติดต่อมาอยากเดินป่าทั้งๆที่ช่วงนี้น้ำตกต่างๆแล้งไปหมด ผมได้ทำการนัดแนะกับเพื่อนๆในกลุ่มเดินป่าด้วยกัน ก็ได้คนร่วมเดินทาง แพลนแรกเราจะเข้าไปนอนที่น้ำตกเจ็ดคต แต่เนื่องด้วยน้ำไม่มีเลยเปลี่ยนไปเดินป่าที่เขาใหญ่สะเลย
เบื้องต้นต้องการจะไปที่ ทุ่งหญ้าเขาแหลม ครับแต่เจ้าหน้านี้ไม่สามารถให้เข้าได้เพราะดันมีเคสด่วนเข้ามา เจ้าหน้าที่จึงให้เราเลือกระหว่าง คลองอีเฒ่ากับบึงไผ่ ทางผมกับพี่ๆก็เลือกคลองอีเฒ่ากัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มขออธิบายไว้ใต้ภาพด้านล่างสุดนะครับ
ทางผมเริ่มต้นจากการออกเดินทางไปรวมพลกันที่ หน่วย ขญ.18 น้ำตกเจ็ดคต ครับรวมกลุ่มกันฝั่งทีมงานของทางผม ไปกันครบทุกคนเราไปนั่งพูดคุยกัน และค้างคืนที่หน่วย ที่จริงแล้วค่อนข้างจะอ้อมไปนิด แต่ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยเราได้จำนวนคนที่แน่นอน
เราออกเดินทางตั้งแต่ 8.00 น ไปยัง อช.เขาใหญ่ โดยทางเราจะขึ้นเขาใญ่ทางฝั่งปราจีน ซึ่งจะไกล้กับทางทีมผมที่สุด เมื่อไปถึงช่วงวงเวียนก็แวะเข้าห้องน้ำ ทานอาหารเช้าและซื้ออาหารกลางวันไว้เตรียมตัวสำหรับการเดินทางในทริปนี้ เมื่อทุกอย่างครบ เราไปรอกับกลุ่มพี่ตูน สมาชิกฝั่งปราจีน ที่หน้าทางเข้าเขาใหญ่ครับ
และเมื่อสมาชิกมาครบเราก็เดินทางไปยังจุดลงทะเบียน ซึ่งทางพี่ๆผมได้ติดต่อทำเรื่องเดินป่าครั้งนี้ไว้แล้ว ก็มารายงานตัวกันก่อนออกเดินทาง
เมื่อมาถึงก็จัดแจงแบกกระเป๋าขึ้นรถ สำหรับทริปนี้เราจำเป็นต้องเช่ารถ 2 คันครับด้วยสมาชิกกว่า 23 คนรถคันแรกจะเน้นสมาชิก อีกคันก็จะเน้นกระเป๋า , เนื่องด้วยที่จอดรถไม่เหมาะสำหรับเอาไปจอดค้างคืนไว้ครับ เดี่ยวดึกๆเกรงว่าสัตว์ป่าจะมาขับรถเล่นเสียก่อน
ก่อนแบกกระเป๋าก็ชั่งน้ำหนักเสียหน่อย ทริปนี้เราจะแบกกันกี่โล เดินบ่อยหน่อยก็แบกหนักหน่อย ผู้หญิงก็เบาหน่อยแบกเยอะไม่ดี สำหรับทริปของผมจะเป็นทริปหารเฉลี่ยกัน ซึ่งค่าเดินส่วนใหญ่ที่ผมไปกันจะถูกมากหากเอาไปเทียบกับพวกจัดทริปทัวร์ หรือทริปเดินป่า แต่ทริปผมก็ต้องดูแลตัวเองและดูแลเพื่อนร่วมทริปด้วย
สำหรับอาหารการกิน ก็จะมีอาหารกองกลางที่เราเฉลี่ยออกมา และก็ช่วยๆกันแบก ทุกๆคนจะได้แบกของหมดอยู่ที่ว่ามากหรือน้อยครับ
เมื่อคนพร้อม เป้พร้อม รถพร้อม เราก็ออกเดินทางไปยังจุดออกตัว ของทริปนี้ (คลองอีเฒ่า)
รถพามาถึงจุดปล่อยตัว ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก ถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย
ช่วงที่ผมไปที่ คลองอีเฒ่านี้ จะเป็นช่วงที่เผาหญ้า ซึ่งเขตที่เราเดินตลอดสองข้างทางจะเป็น พื้นที่ชิงเผา ชิงเผาไม่ให้เกิดไฟป่า ชิงเผาเพื่อให้หญ้าได้เกิดใหม่เป็นอาหารของสัตว์นานาชนิดครับ หากดูรูปโดยรวมในทริปนี้ก็จะเห็นว่าหญ้าจะโดนเผาตลอดทาง ที่จริงแม้แต่ส่วนของที่พักก็โดนเผาเช่นเดียวกันครับ
ช่วงนี้เป็นช่วงเดือน ก.พ. ครับปีนี้เหมือนจะชิงเผาไวกว่าปกติครับ แต่ช่วงนี้หาที่เดินป่ายากหน่อยสำหรับฝั่งปราจีนบุรี หรือฝั่งสระบุรี เพราะว่าน้ำตามน้ำตกได้แห้งไปเกือบหมดครับ ซึ่งปกติแล้วช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว เขาจะนิยมไปเดินป่า ตามยอดเขาที่อากาศหนาวๆเสียมากกว่า
ตลอดสองข้างทางเป็นทุ่งหญ้าที่โดนเผาหมดเลยครับ
อาจารย์ภู กลัวอดน้ำก็แบกน้ำเข้าป่ากันเป็นลิตรๆเลย เจ๋งจริงๆ
หลังจากเดินจากจุด หอส่องสัตว์ไปได้สักพัก ก็จะพบกับทางเข้าครับ รายละเอียดตามป้ายเลยครับ ระยะทางที่เราจะเดินต่อจากจุดนี้เดินอีก 3 กิโล ครับซึ่งทางผมสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว หากคิดระยะทางจากจุดจอดรถ ตลอดทั้งเส้นทางจะเป็นระยะทาง 3.9 กิโล โดยประมาณครับ มาถึงจุดนี้ก็พักเหนื่อยกันหน่อยพอเป็นพิธี
จากนั้นก็เริ่มเดินต่อไป ก็จะเป็นทั้งทุ่งหญ้าและป่าดิบทึบ เดินข้ามคลองบ้านเป็นช่วงๆครับ