1
อุทยานแห่งชาติปางสีดา ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 41 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอตาพระยา อำเภอวัฒนานคร อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี รวมครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 527,500 ไร่ หรือประมาณ 844 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะเป็นที่ศึกษาเรื่องสัตว์ป่าที่สำคัญ เพราะมีสัตว์ป่าหายากและนก กว่า 300 ชนิด เช่น นกเงือก นกยูง ฯลฯ รวมถึงมีแหล่งจระเข้น้ำจืด ซึ่งเชื่อว่าเหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
ลักษณะป่า มีทั้งลักษณะของ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ชนิดของพรรณไม้ที่พบอยู่ทั่วไป ได้แก่ พญาไม้ มะขามป้อมดง สนสามพันปี กำลังเสือโคร่งยางกล่อง ยางขน ยางเสี้ยน กระบาก ยางปาย เคี่ยมคะนอง เป็นต้น พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ตัวอย่างเช่น เต็ง รัง เหียง พลวง มะขามป้อม รกฟ้า
มีสัตว์ป่าหายากรวมทั้งนกไม่ต่ำกว่า 300 ชนิด อาศัยอยู่ ตัวอย่างสัตว์ป่าที่พบได้แก่ช้าง กระทิง วัวแดง เสือโคร่ง เก้ง กวางป่า กระจง ชะนีมงกุฎ นากเล็กเล็บสั้น เม่นแผงคอใหญ่ นกเงิอก นกยูง ปลาชนิดต่างๆ ฯลฯ
แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติปางสีดา เช่น จุดชมวิว กม.25 ทุ่งหญ้าบุตาปอด น้ำตกแควมะค่า น้ำตกแดงมะค่าและน้ำตกสวนมั่นสวนทอง น้ำตกถ้ำค้างคาว น้ำตกทับเทวา น้ำตกท่ากะบาก น้ำตกธารพลับพลึง น้ำตกปางสีดา น้ำตกผาตะเคียน น้ำตกหน้าผาใหญ่ ภูเขาเจดีย์
ทริปเล็กๆ สำรวจเส้นทาง ท่องเที่ยวถ่ายรูปผีเสื้อที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าทริปนี้ รูปที่ลงจะเป็นการเดินทางสองรอบครับ เพราะเนื่องจากครั้งแรกที่ไปผีเสื้อยังออกไม่เยอะครับ สำหรับปี 2015 นี้คาดว่า ผีเสื้อจะเยอะในช่วงเดือน มิถุนายน ครับ ซึ่งบางปีก็จะไวกว่านั้นครับ แต่ปีนี้เท่าที่สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่แล้วนั้น เพราะฝนในปีนี้ตกช้ากว่าปกติครับ
อย่างไรก็ตามไหนๆทางผมก็ไปแล้วก็เลยเก็บภาพอีกมุมมองหนึ่ง ของอุทยานปางสีดา ในช่วงที่ น้ำไม่มีและผีเสื้อไม่มี รูปอาจจะน้อยไปหน่อยนะครับ แล้วผมจะเก็บรูปสวยๆมาเติมให้ครับผม
ระหว่างทางการขับรถขึ้นไปยังจุดชมวิว เป็นถนนดินแดงตามรูปนี้นะครับ รถเล็กก็สามารถขึ้นได้นะครับ อาจจะมีทางบางจุดที่เป็นร่องน้ำหน่อยก็ค่อยๆเดินทางไปครับ ตลอดเส้นทางผมจะเจอแต่เจ้าก้อนพวกนี้ครับ ทำให้เราได้อีกความรู้สึกนึงเลยครับ (จะเจอกันไหม ถ้าเจอแล้วจะทำยังไง)
แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่เจอเจ้าของก้อนเหล่านี้ครับ
สำหรับทริปการเดินทางในรูปนี้เป็นการไปในช่วงที่ยังมีผีเสื้อไม่เยอะครับคนเลยน้อยๆไปหน่อยครับ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า ยิ่งคนน้อยเรายิ่งพบเจอสัตว์มากยิ่งขึ้น สำหรับการเดินทางครั้งนั้น ผมพบ มากกว่าผีเสี้อคือ นกที่หลากหลายชนิด เพียงแค่ผมขับรถไปก็พบได้ง่ายๆ บินไปมาเลยครับ ทั้งนกแก๊ก และ นกเงือก ครับรวมไปถึงเจ้าหัวขวานบางชนิด และนกแปลกๆที่ทางผมพึ่งจะเคยเห็นอีกด้วย
รวมไปถึงเจ้าตัวตะกวด ตัวเงินตัวทอง หรือจะเรียกบ้านๆกันว่าตัวเหี้ย ครับ อ่อเกือบลืมช่วงขับรถกลับเจอไก่ป่าอยู่หลายตัวครับ หากคนที่ไปครั้งแรกอาจจะทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า ไม่มีจุดหมายปลายทาง เพราะเส้นทางจะเป็นแบบนี้ตลอด ไม่มีป้ายบอกระยะทางนะครับ แหมทำผมคิดตลอดว่าเมื่อไหร่จะถึงสักที หรือ เราหลงทางไหมเนี่ย
แวะถ่ายรูประหว่างทางไปจุดชมวิวครับ จุดนี้อาจจะดูอันตรายหน่อยเพราะว่าเป็นหน้าผาที่ดินถล่มครับ แต่วิวตรงนี้สวยดี แถมเหมาะต่อการดูนก และถ่ายรูปนกด้วยครับส่วนหนึ่ง เลยแวะกดรูป เก็บภาพมาฝากครับ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายวิวทางด้านหน้าผามาครับ
ระหว่างทางก็เจอเจ้าตัวนี้ นอนอาบแดดกลางถนน ท่าทางไม่ค่อยจะเกรงกลัวต่อรถสักเท่าไหร่ ผมเลยจอดรถถ่ายรูปสักหน่อยแล้วค่อยๆขับผ่านไปครับ แต่ขากลับไม่เจอสะแล้ว ดันไปเจออีกตัวนึง ซึ่งลายก็ไม่เหมือนกันสะด้วย
ตามรายละเอียด ไปคราวนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งก่อนแล้วว่า น้ำตกไม่มีน้ำนะครับ แถมผีเสื้อก็ยังไม่ออก จะมีก็ไม่กี่ตัว แต่ไหนๆเรามาแล้วก็ขอเข้าไปศึกษาเส้นทางสักหน่อย เพื่อว่าทริปต่อไปจะพาลูกทีมมาเที่ยวกันที่ปางสีดา จะได้รู้เส้นทางและวางแผนกิจกรรมได้ถูกต้อง
รูปนี้ถ่ายตรงจุดน้ำตกนะครับ เห็นว่าจุดนี้จะมีผีเสื้อออกมาเยอะ (ในช่วงที่ผีเสื้อออกนะครับ) เลยแอบๆไปส่องมาได้สักตัว
นี่คือทางเข้าส่วนของบริการจุดกางเต้นท์ ครับช่างนี้ดูวังเวงหน่อยอาจจะเป็นช่วงที่คนไม่ค่อยมีครับ หากเป็นช่วงเทศกาลแล้ว คงน่าจะสนุกน่าดู
ถึงจุดหมายปลายทางจุดชมวิว ที่เราขึ้นมาครับถือว่า สิ้นสุดถนนที่รถสามารถวิ่งได้เลยครับ แหมๆวันไปแสนจะเงียบสงบ มีเพื่อนจากที่อื่นขับรถมาก่อนหน้าเรา 1 คันอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนนั่งถ่ายรูปเล่นบ้างหละ
นอกจากนี้ผมได้ สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดูนก เจ้าหน้าที่แนะนำมาว่าหากคนที่สนใจจะดูนกแนะนำให้มาช่วงที่ เมล็ดของต้นไทร ออกพอดีเพราะช่วงนั้นนกจะเยอะมากและหลากหลายสายพันธุ์ครับ