1
กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน เปิดตัวมาอย่างลูกทุ่ง แสดงว่าทริปนี้เป็นการรีวิวทริปเที่ยวแบบลูกทุ่งๆ สั้นๆง่ายๆ (และอาจไม่ได้ใจความเท่าไหร่ 555+) ทริปนี้จะพาไปขึ้นดอยอินทนนท์ Ver.แว้นฟ้อ ซึ่งใช้เวลาในการเที่ยว 2 วัน 1 คืน (เดินทาง 2 คืน) ประกอบด้วยสมาชิก 2 คน ค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 2,000 บาท โดยจะทำการสรุปในช่วงท้าย พร้อมแล้วลุยกันเลย...
เริ่มออกเดินทางด้วยรถทัวร์จากหมอชิตประมาน 2 ทุ่มครึ่ง เป็นรถกรุงเทพ-จอมทอง ราคา 480 บาท รถถึงปลายทางที่วัด พระธาตุจอมทอง ประมาณ 8 โมงเช้า ด้านหน้าวัดจะมีของกินขายอยู่ พวกเราล้างหน้าแปรงฟันที่วัด และแวะไหว้พระธาตุ และเยี่ยมชมวัดสักครู่
เป็นวัดที่สวยงามมากๆ
หลังจากนั้นเราก็มาเช่ามอตอไซร้านลุงตี๋ อยู่ตรงข้ามวัด อัตราค่าเช่า 300 บาท ต่อ 24 ชม. มัดจำ 1,000 บาท พร้อมบัตรตัวจริงหลังได้รถเราก็แว้นมุ่งหน้าสู่ ดอยอินทนนท์ โดยจุดแรกที่เราแวะก็คือ น้ำตกวชิรธาร
หลังจากนั้นพวกเราก็แว้นต่อไปอีกไม่ไกล ก็ถึงบ้านแม่กลางหลวง ที่ตั้งของ น้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือ น้ำตกรักจัง โดยการเดินเข้าชมต้องติดต่อไกด์จากร้านกาแฟ ในอัตรา 200 บาท ก่อนเดินก็แวะดื่มกาแฟฟรีสดๆจากต้น กันก่อน
ระหว่างทางผมก็ถ่ายบรรยากาศไปเรื่องครับ ชอบสุดก็ตรงสะพานไม้ไผ่ละครับ
ระหว่างทางเราก็จะพบกับนาขั้นบันได แต่ผมมาในช่วงที่เก็บเกี่ยวไปแล้ว ปกติที่นี่จะทำนาเฉพาะในช่วงหน้าฝน ปลายปีครั้งเดียวเท่านั้น
เดินไปสักพักเราก็จะได้พบน้ำตกซึ่งภาพยนตร์เรื่องรักจังเคยมาถ่ายทำที่นี่ บางคนจึงเรียกว่า น้ำตกรักจัง
เมื่อไปถึงชั้นบนสุดเราก็เดินลงกลับมาตามเส้นทางเดิม หลังจากลงมาก็หาข้าวกินก่อน ท้องอิ่มก็ลุยกันต่อ ขับขึ้นไปเรื่อยๆเลี้ยวขวาสู่ บ้านขุนกลาง จุดหมายคือ ชมดอกพญาเสือโคร่ง ที่ศูนย์รองเท้านารีอินทนนท์ ที่นี่คนเยอะมากๆ ใครที่ขับรถยนต์มานอกจากรถจะติดแล้วยังหาที่จอดลำบากด้วย ภายในจะเต็มไปด้วยสีชมพู
หลังจากชมนางพญาเสือโคร่งซึ่งดูเหมือนเสือโคร่งจะยังไม่ค่อยตื่น เพราะยังบานไม่ค่อยเต็มที่ เราก็ขับย้อนกลับมาที่ดอยซัวร์ญ่า เพื่อจองเต้นสำหรับนอนคืนนี้ ราคาเต้นสำหรับนอน 2 คน อยู่ที่ 400 บาท มีผ้าห่มผืนใหญ่ให้เช่าครับ หลังจากได้ที่พัก เก็บกระเป๋าเข้าเต้นก็เป็นเวลาประมาณ 4 โมงเย็น เราตัดสินใจไปเที่ยวป่าปงเปียง เราแว้นไปทางขึ้นดอยอินทนนท์จนถึง ด่านตรวจที่ 2 ให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีป้าย “น้ำตกห้วยทรายเหลือง” กับ “น้ำตกแม่ปาน” ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย ทางค่อนข้างจะทุลักทุเลมากๆ ออกแนวดินโคลน ถ้าเป็นหน้าฝน คงต้องอาศัยรถ 4wd จากผู้ดูแลถึงจะเข้าได้ เมื่อมาถึงจุดหมายก็พบว่า
เหลือเพียงความว่างเปล่าของท้องนา ฮือๆๆ เหมือนเดิมครับถ้าอย่ามาดูความสวยงามต้องมาหน้าฝนปลายปีครับ เค้าว่ากันว่างามดุจสวรรค์ สัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอน ว่าแต่แบบนี้ก็สวยไปอีกนะ ฮิปเตอร์ดี 555+
หลังจากเสพบรรยากาศซากรอยไถเสร็จเรียบร้อย เราก็กลับที่พัก ช่วงเย็นคนเริ่มคึกคักแล้วครับ สำหรับมื้อเย็นนี้เราฝากท้องไว้กับร้านหมู่กระทะราคา 400 แต่วิว 4ล้าน 555+
ได้เวลานอนแล้ว ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็น นอนละๆ พรุ่งนี้ต้องตื่นขึ้นดอยตอน 6 โมงเช้า Zzz….
ตี 5 ครึ่งของเช้าวันใหม่ เราตื่นเตรียมตัวไปขึ้นดอย อากาศตอนนี้เย็นมากๆ แต่เราก็ต้องแว้นมอไซต์คู่กายไปให้ได้ ยิ่งขับขึ้นไปก็ยิ่งหนาว หนาว และหนาวมากกกก ไม่น่าเชื่อว่าพวกเราจะแว้นมอไซต์ท้าอุณหภูมิ -1 องศา ขึ้นมาได้ ด้วยอุณหภูมิที่หนาวสุดชีวิตทำให้ผมไม่สนใจที่จะทำอะไรทั้งนั้นแม้แต่ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น (ก็มันหนาวนิ) หนาวจนน้ำที่รดต้นไม้กลายเป็นน้ำแข็งอะคิดดูว่าหนาวขนาดไหน
อารมณ์เหมือนอยู่ในตู้เย็น ไม่ไหวๆ เราหาไรกินร้อนๆก่อนดีกว่าเนอะ
หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวขึ้นเส้นทางอนุลักษณ์ธรรมชาติกิ่วแม่ปาน โดยมีค่าธรรมเนียมกรุปละ 200 บาท (ไม่เกิน 5 คน) เดินๆๆไปเรื่อยๆ พี่ไกด์ก็แนะนำอะไรต่างๆไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยได้ฟังหรอก ผมมัวแต่เดินถ่ายรูป จำได้แค่ชื่อป่าเหนือเมฆ เพราะ อยู่สูงกว่าเมฆชั้นแรก 555+ สาระก็มี
เราเดินมาสักพักก็ถึงถุงหญ้าที่ทำให้เราหายเหนื่อยเพราะว่ามันสวยงามจริงๆ มองออกไปก็เป็นสีทองอร่าม เนื่องจากอากาศที่เย็นมาก ทำให้เราได้เห็นแม่ขนิ้งที่สวยงามบนหญ้าเหล่านี้
บริเวณใกล้กันก็จะพบกับมุมมหาชน ถือว่าเป็นจุดขายของที่นี่เลย ไหนๆก็มาละ ขอจัดสักรูปนะครับ (อย่าดราม่าเก๊าหน้า 55+) ยังไงก็ฝากให้ระวังตอนขึ้นไปถ่ายรูปด้วยนะครับ ค่อนข้างอันตรายนิดนึง เนื่องจากคนขึ้นไปเยอะ อาจเกิดชำรุดได้
ส่วนรูปนี้ขออนุญาติบุคคลในภาพด้วยนะครับ พอดีลองถ่ายมาตอนต่อคิว ภาพน่ารักดี และ หลังถ่ายรูปอยู่พักใหญ่ เราก็เดินต่อไปตามทาง
ตรงนี้เป็นลักษณะเนินที่มองขึ้นไปยังมุมมหาชนเมื่อสักครู่
ระหว่างทางเดินจะมีต้นกุหลาบพันปีเริ่มออกดอกขึ้นอยู่ตามหน้าผา
เมื่อเดินไปเรื่อยๆตามทางเราก็จะวนกลับมาที่เดิมเสร็จจากเดินกิ่วแม่ปานเรา ก็ขึ้นไปจุดสูงสุดประเทศไทย บนยอดดอยอินทนนท์เพื่อแชะภาพไว้เป็นหลักฐาน ขากลับก็แวะที่สุดท้ายของทริปนี้ คือพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล – นภพลภูมสิริ ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายในหลวงและราชินิในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยอัตราค่าเข้าชม 40 บาท
หลังจากชมเสร็จ เราก็แว้นกลับไปเก็บกระเป๋าสำภาระที่ดอยซัวร์ญ่า และดิ่งลงไปคืนรถที่ร้านลุตี๋ที่จอมทอง โดยท่านสามารถซื้อตั๋วกลับกรุงเทพได้ที่จอมทองนี้เลย แต่เพื่อนร่วมทริปผมต้องกลับต่างจังหวัดจึงต้องต่อรถไปขึ้นรถที่อาเขต ส่วนผมก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพ หลับยาวถึงเช้า ตื่นไปทำงานเข้าสู่วงจรมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง ถือเป็นการปิดทริปแบบลวกๆ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนกลับกรุงเทพ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ
ค่ารถทัวร์ไป-กลับ 1,000 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ 200 บาท
ค่าที่พัก 200 บาท
ค่าน้ามัน 60 บาท
ค่าไกด์น้ำตกผ่าดอกเสี้ยว 100 บาท
ค่าไกด์กิ่วแม่ปาน 100 บาท
ค่าชมพระธาตุ 40 บาท
ค่ากิน ประมาณ 400 บาท
รวม ประมาณ 2,100 บาท
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
ขอขอบคุณเจ้าของบทความที่อนุญาตให้ทางทีมงานไทยพ๊อกเก็ตแนะนำรีวิวดีๆ ให้เพื่อนๆได้เข้ามาอ่านมาชมกันครับ
http://pantip.com/topic/34704911