1
น้ำตกเขาแคบ อยู่ที่ จ.สระบุรี ครับ ซึ่งหากเพื่อนๆได้ไป จะได้พบน้ำตกอยู่หลายจุด ในแต่ละชั้นของน้ำตกก็จะเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ตามทางน้ำที่ไหลลงมา ครับ สำหรับรายละเอียดของน้ำตกนี้ผมจะหามาเพิ่มให้อีกครั้งนะครับ
สำหรับทริปนี้เป็นอีกทริปที่ได้รับการแนะนำหลังจากไปเดินป่าที่ น้ำตกโกรกอีดก ครับมีการแนะนำและพูดถึงน้ำตกเขาแคบ ซึ่งจากการบอกเล่าทางเพื่อนที่มาเที่ยว กับเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้มาในช่วงที่มีน้ำเยอะหน่อยจะสวยครับ และแน่นอนต้องเป็นช่วงหน้าฝนนี่แหละครับ ปีนี้ความรู้สึกของผมคือน้ำมาช้า และฝนตกน้อยพอสมควรครับ แต่เราก็ยังหวังว่าจะได้เห็นน้ำตกสวยๆ และถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ
ทริปนี้จำเป็นต้องนอนค้างในป่า 1 คืน สำหรับทริปนี้ถือเป็นทริปที่ 2 ที่ผมนอนค้างในป่าครับ ซึ่งทริปแรกคือ น้ำตกตาดหินยาว ครับ และสำหรับทริปน้ำตกเขาแคบนี้ ทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ อีกเช่นเคยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนอนเปล ที่เป็นเปลมุ้ง การทำอาหารในป่า แต่แน่นอนผมและทีมงานร่วมทริป ได้รับความประทับใจกลับบ้าน และนำกลับมาฝากเพื่อนๆที่แวะเข้ามาชม รีวิว ทริปน้ำตกเขาแคบ นี้ด้วย เป็นอย่างไรไปชมนะครับ
ทริปนี้ ผมและทีมงาน นัดกันแต่เช้าตรู่ และออกเดินทางจาก จุดนัดหมายเพื่อไปยังน้ำตกเจ็ดคต หากถามว่าทำไมเพราะเจ้าหน้าที่นำทางเราอยู่ที่นั่นครับ ทริปนี้มีการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าควรมีเจ้าหน้าที่ไปด้วย 2 ท่าน ทางผมและทีมงานไม่ได้ขัดอะไร เพราะเพื่อความปลอดภัยต้องมาที่หนึ่ง และหากเราจ้างเจ้าหน้าที่ก็มีค่าใช้จ่ายไม่มากครับ ถือว่าพอเหมาะสำหรับเจ้าหน้าที่สองคน
เราออกเดินทางกันที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ โป่งก้อนเส้า ครับ หรือบางคนจะเรียกว่า ซับป่าว่าน (หากเขียนผิดก็ต้องขออภัยครับ) โดยก่อนออกเดินทาง ก็มีการแนะนำตัวกันก่อนระหว่างนักท่องเที่ยว ทีมงานผมกับเจ้าหน้าที่ครับ
พอดีผมเห็นทริปนี้น้องแบกปีนไปด้วย เลยแอบสงสัยก็เลยถามถึงเหตุผล พี่เขาให้คำตอบเพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวครับ และเพื่อความอุ่นใจของเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวเอง ซึ่งในป่าเราจะไม่ทราบเลยว่าจะเจออะไรบ้าง บางครั้งก็มีกับดักสัตว์ หรือพวกนายพราน หรือสัตว์บางชนิดที่จะมาทำร้ายเรา
ซึ่งในป่าจะมีสัตว์เช่น หมี เม่น ช้าง กระทิง และสัตว์อื่นๆบางชนิดที่อาจจะทำร้ายเราครับ ถือเป็นการดีครับที่นำติดตัวเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปล่าสัตว์เพราะ ผมและทีมงานเอง ก็ไม่ต้องการเช่นนั้น เช่นเดียวกัน
จะมีเจ้าหน้าที่เดินนำ (ชื่อน้องนก) และอีกคนเดินปิดท้าย (พี่ใหญ่ของเรา ชื่อพี่บัวลอย) การเดินทางค่อนข้างอุ่นใจครับ เพราะผมถ่ายรูปกันตลอดทาง ไม่มีหลงป่าเพราะพี่บัวลอยจะรอเราอยู่ท้ายขบวน เมื่อถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินกันต่อไปเรื่อยๆ ครับ
ทางเข้าช่วงแรกจะเป็นป่าหวายครับ สองข้างทางมีต้นหวายตลอดครับ เดินทริปนี้ต้องระวังหนามกันบ่อยๆหน่อย เพราะมีตลอดทางเดินเลย
ทริปนี้ผมมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 ท่านพี่เขาอยู่แถวๆนี้ และมาเดินที่น้ำตกโกรกอีดกบ่อยครับ พึ่งได้รู้จักกับพี่เขาเลยชวนมาด้วยกันครับ ได้เพื่อนใหม่มาอีกคน
จุดเริ่มต้นของการเดินป่า เข้าไปยังน้ำตกเขาแคบ ก็จะมีป้ายบอกทางอยู่ครับ ที่จริงผมเคยเดินเข้าไปสองคนในเส้นทางนี้ในปีที่แล้วครับ แต่เดินไปได้สักพักก็เดินกลับครับ เนื่องจากเดินกันสองคน และดูท่าทางไม่น่าจะเป็นทางเดินที่เราจะเข้ามาเดินได้เองครับ
สำหรับป้ายก็จะบอกระยะทางจุดมุ่งหมายต่างๆ ส่วนตัวแล้วผมยังไปไม่ครบครับ เพราะเดินไปในแต่ละครั้งหากไปครบคงต้องค้างคืนในป่ากันหลายคืนเลยครับ เราเลยเลือกไปที่ป้าหมายสำคัญของเราก่อนนั่นคือ น้ำตกเขาแคบ
เดินเข้ามาได้สักพัก น้องนก (เจ้าหน้าที่) ก็หยุดพักสักครู่เพื่อเติมพลัง และเดินต่อไป ผมเลยแอบไปขอยกกระเป๋าดู หนักมากเลยครับ ในนั้นก็มีอาหารเย็น และ อาหารเช้าของวันพรุ่งนี้ หม้อสนาม และเปล รวมไปถึงผ้าใบเปล ของพวกผมแอบเนียนฝากน้องเขาแบกเข้าป่าไปด้วย
หลังจากได้พักเราก็เดินกันต่อ ครับเส้นทางที่เราเดินก็จะมีเหมือนทางเดิน นิดหน่อยที่ว่านิดหน่อยเพราะต้นไม้ ต้นหญ้าก็เริ่มบดบังเส้นทางเดินครับ พอดีทริปน้ำตกเขาแคบ ในอาทิตย์ก่อนที่ผมจะมานั้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อนหน้าแล้ว ส่วนตัวผมถือเป็นทริปที่สองของปีนี้ครับ
น้องเจ้าหน้าที่ก็จะเดินเบิกทาง ตัดกิ่งไม้เพื่อให้เราเดินกันได้ง่ายขึ้น แต่ผมก็ยังต้องมุดไปมุดมาอยู่ดีครับ แน่นอนเข้าป่าทั้งที จะมาถางป่าให้เราเดินก็ไม่น่าจะถูกต้อง
เดินไปได้สักพัก พวกผมก็เจอเจ้าตัวนี้ครับ เหมือนจะเป็นงูเขียวชนิดหนึ่ง (ไม่แน่ใจนะครับ) ผมก็แอบถ่ายมาให้ครับ แล้วเราก็เดินกันต่อครับ สำหรับทริปนี้ผมเจองู 2 ตัวครับอีกตัวถ่ายไม่ทันครับเห็นแต่หางเลยไม่ขอเอาลงแล้วกันครับ
น่าแปลกใจจริงครับผมมาเที่ยวที่เจ็ดคต และมาเดินป่าที่นี่ เจองูทุกครั้งที่มาเลยครับตั้งแต่ทริป ถ่ายเห็ดแชมเปญ ปีก่อนๆ และ น้ำตกโกรกอีดก ก็เจองูทุกครั้งเลย แต่เขาก็ไม่ได้มาทำร้ายเรานะครับและที่แน่ๆครับต่างคนต่างอยู่เราก็ไม่ทำร้ายเขาครับ ที่ๆเขาอยู่คือบ้านของเขา ส่วนเราเหมือนนักท่องเที่ยวครับ
รูปนี้ถ่ายตรงช่วงทางเข้ามาครับ กล้วยไม้ครับแต่ที่แน่ๆ อันนี้เจ้าหน้าที่เอาลวดมาพันไว้ให้ติดต้นไม้ ครับผมเข้าป่าทีไรเจอ กล้วยไม้ตกอยู่บนพื้นเยอะเลยครับน่าเสียดาย ถ้ามันอยู่กับต้นไม้และเวลาออกดอกจะสวยมากครับ
เส้นทางเดินในช่วงแรกๆ ก็เหมือนๆกับเดินเข้าน้ำตกโกรกอีดก ครับจะมีเถาวัล กิ่งไม้แห้งที่ตายแล้วล้มตลอดทาง รวมไปถึงต้นไม้ต่างๆข้างทาง ทั้งมีหนามและไม่มีครับ
น้องทีมงานที่พาไปด้วยครับ ให้รับหน้าที่เป็นมือถ่ายวีดีโอครับ สำหรับโกรกอีดก ก็ได้น้องคนนี้แหละครับช่วยในการตัดต่อ แต่สำหรับทริปอื่นๆผมจะเริ่มทำคลิปมาให้ได้ชมกันบ้างครับ ถ้าไม่มีจริงๆก็อาจจะขอวีดีโอจาก เพื่อนที่รีวิวมาใส่ให้ครับ
เดินมาได้สักพัก ก็แวะพักกันก่อน ก่อนที่จะเดินทางต่อครับ พอดีตรงที่พักมีน้ำตกเล็กๆไหลลงมา ผมเลยรีบไปถ่ายมาเก็บไว้โชคดีนะครับ มุมนี้ถ่ายมาแค่ 2 รูปใช้ได้เลยรูปไม่เสีย หรืออยู่ในระดับที่รับได้ครับ
ระหว่างที่พักก็หาดอกไม้ และแมลงถ่ายเล่นไปก่อน
หลังจากพักกันเรียบร้อยเราก็เดินกันต่อครับ บรรยากาศที่นี่ เย็นชุ่มชื้นมากครับ อาจจะเป็นที่ว่าช่วงที่ผมไปฝนตกลงมาเมื่อคืน
มีคนบอกว่า หากจะเที่ยวป่าให้เที่ยวหน้าฝนครับ ผมเห็นด้วยเพราะเที่ยวหน้าฝนเราจะได้เห็นต้นไม้ที่กำลังฟื้นตัวแตกใบอ่อน สำหรับงอกงามสดชื่นเลยครับ และอาการก็ไม่ร้อนมากด้วยครับ รวมไปถึงน้ำตกก็จะมีน้ำสวยด้วยครับ
เดินต่อมาได้อีกสักพัก เราก็แวะพักข้างทาง เพราะตอนนนี้ก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้วครับ เช่นเคยคำแนะนำคือ ให้เพื่อนๆเตรียมอาหารกลางวันมาด้วยเลยครับ หาซื้อได้จากหน้าอุทยาน ทางเข้าน้ำตกเจ็ดคตเลยครับ ซื้อไก่สักไม้ และข้าวเหนียวสักหน่อย หากจะซื้อไว้ปทานตอนเย็นด้วยก็ได้เช่นกันครับ แต่ต้องแบกหน่อยนะครับ
เราแวะทานอาหารกันที่นี่ครับ เป็นช่องทางน้ำไหลครับ แถวๆนี้มดเยอะหน่อยครับ และมีขี้ของเจ้ากระทิงด้วยครับสงสัยจะลงมากินน้ำที่รำธาร
หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว เราก็ออกเดินต่อ ไปยังน้ำตกขาแคบครับ ตอนแรกน้องเจ้าหน้าที่แนะนำว่าจะพักที่จุดที่เราทานอาหารกันไหม แล้วเดินขึ้นไปเขาแคบ และเดินกลับมาจุดเดิม ซึ่งทางผมตั้งใจจะมาแล้วก็เต็มที่เลย คือเดินขึ้นไปยังน้ำตกเพื่อหาที่พัก บนน้ำตกครับ และเดินทางกลับลัดไปอีกทาง เพื่อหาบรรยากาศใหม่ๆ และกลับลงที่จุดน้ำตกเจ็ดคต ครับ
หลังจากออกมาได้สักพักใหญ่ๆ เราก็เริ่มเจอรำธารน้ำบ้างแล้วครับ การเดินก็จะเริ่มแฉะบ้าง เปียกบ้างครับ ต้นไม้ที่รากอยู่ในน้ำก็สวยไปอีกแบบครับ ของจริงสวยกว่าในรูปแน่นอนครับ
เดินทางต่อไปเรื่อยๆ บนก้อนหินที่ชุ่มช่ำเต็มไปด้วยมอส อาจจะมีลื่นบ้าง แต่ก็มีความสนุก และสวยงามอยู่ตลอดทาง
ระหว่างทางเดิน พี่บัวลอย (เจ้าหน้าที่) ชี้ให้ผมถ่าย แนะนำมาทั้งทีผมเลยลงน้ำไปถ่ายกลับมาให้ ไม่น่าเชื่อว่าในป่าจะมีโพรงรากไม้ที่ถักทอ กันเหมือนอุโมงเลยครับ อุโมงแบบนี้ที่น้ำตกโกรกอีดกก็มีเช่นกันครับ ความสวยนั้นไม่แพ้กันเลยครับ
ระหว่างทางเดินเราพูดถึงลูกหวายกัน ทีมงานบางท่านยังไม่เคยทาน สำหรับผมเคยทานแล้ว จะบอกว่าอร่อยก็ไม่ใช่ ไม่อร่อยก็ไม่มั่นใจ อาจจะเป็นที่ผมกินมันไม่เป็นเสียมากกว่าครับ เดินได้สักพักก็เจอเจ้าพวงนี้อยู่ ขั่วของช่อมันขาดอยู่ พี่เขาเลยหยิบมาให้ดูครับ
ผมให้น้องเดินถือขึ้นไปที่เขาแคบด้วยครับ แต่ผมไม่ได้นำมันออกมาจากป่านะครับ พอดีกินไม่เป็น และดูเหมือนมันจะดิบเสียด้วยครับ ของป่าก็ไว้ในป่าตามเคย
ตลอดทางต้นไม้ต้นหญ้าน้อยใหญ่ ขึ้นอย่างสวยง่มเลยครับ
สองเส้นทางจะมีเห็ด ขึ้นอยู่เต็มไปหมดครับ สำหรับรูปนี้มีชื่อว่า "ขนุนดิน" ลักษณะดอกจะเหมือนดอกขนุนเลยครับ และโผล่ขึ้นมาจากดินครับ เป็นเหมือนเหง้าหัว ครับคือไม่มีต้นนะครับ แปลกตาและเด่นชัดมากครับ เพราะมีขึ้นตลอดทางเดินเลยครับ
นอกจากขนุนดิน แล้วก็ยังมีเห็ดหลากหลายชนิดมากครับ ขึ้นอยู่ตลอดเส้นทางเดินเลยครับ ผมไม่สามารถถ่ายรูปเห็ดได้ทุกจุดที่เจอครับ บางจุดก็เป็นเห็ดแบบเดิมๆ เลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดูครับ บางชนิดถ่ายไม่ได้จริงๆครับ ต้องใช้เวลา แต่การเดินป่าแบบนี้เวลาเราก็มีจำกัดเช่นกันครับ
ระหว่างทางเจอเห็ด "หูหนู" ด้วยครับเลยเก็บขึ้นไปน้ำตกเขาแคบด้วยครับ เป็นอาหารให้ได้ในเย็นนี้ครับ
เห็ดบางชนิดก็ขึ้นกับตอไม้ที่แห้งตายแล้วครับ
ตลอดเส้นทางเดินก็จะเจอเห็ด แชมเปญ บ้างเป็นบางครั้ง เห็ดแชมเปญ ที่นี่จะเป็นดอกสีส้มครับ ส่วนที่น้ำตกเจ็ดคต จะเจอแต่ดอกสีแดงครับ
ในป่าช่วงหน้าฝนนี้มีความชุ่มชื้นเป็นอย่างมากครับ สำหรับเพื่อนๆที่เดินป่า ก็จะพบเห็นเห็ดหลากหลายชนิดในผืนป่า ให้แปลกตาแปลกใจ หลายๆครั้งเห็ด ดอกเล็กๆบนพื้น ที่เราเดินผ่านหากลองตั้งใจดูสักนิดคุณจะเห็น ความสวยงามและแปลกตาได้มากกว่าที่คุณคิดเลย
เห็ดกลุ่มนี้สีแดงสดมากครับ เลยถ่ายเก็บมาให้ดูกันครับ
เห็ดถ้วยขน ก็มีเช่นเดียวกันครับ
ตลอดทาง ที่เราเดินตามเส้นทางของน้ำมาตลอด ผมก็ได้เจอกับเจ้าปูตัวนี้ครับเท่าที่ทราบที่นี่มีปูเยอะเหมือนกันครับ มักจะอยู่ตามโขดหินและริมๆธารน้ำครับ
สำหรับผมแล้วการถ่ายรูปเป็นสิ่งทีชอบอีกอย่างหนึ่ง การถ่ายมาโครสำหรับผมก็จะท่าทางออกแบบนี้ตลอดเลย ถ่ายรูปแบบนี้แหละครับถึงได้มีรูปเห็ดแปลกๆมาฝากสมาชิก
เดินกันมาได้ครึ่งทางแล้ว ลืมตัวไปว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปกับพี่เจ้าหน้าที่ เลยขอพี่เขามาถ่ายสะหน่อย เก๊กสะหล่อเชียว
เส้นทางการเดินป่าไปยังน้ำตกเขาแคบนั้น ตลอดสองข้างทางจะพบเจอกับต้นไม้เล็กและใหญ่ ดูตัวอย่างเจ้าต้นนี้ครับ ต้นใหญ่มากเลย ลองเทียบๆกันแล้วจะรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ครับ ผมอยากให้ป่าแบบนี้อยู่คู่กับเราไปอีกนานแสนนาน ต้นไม้ต้นนี้ เกิดและเติมโต มาก่อนเราหลายร้อยปี ผมก็อยากให้เขาได้เติบโตต่อไปในพื้นที่ป่าแห่งนี้ไปอีกหลายร้อยปี เช่นเดิม
เดินทางมาได้สักเหนื่อย และแล้วเราก็เจอเจ้าน้ำตกเขาแคบ จุดแรกเลยครับ จุดนี้จะเป็นช่องแคบๆที่น้ำไหลลงมา ดูจากรูปเหมือนเป็นสายเล็กๆแต่ที่จริงแล้วผมถ่ายในระยะไกลครับเพราะอยากให้เก็บภาพแวดล้อมข้างๆไว้ให้ดูกันด้วยครับทำให้เห็นสายน้ำที่ตกลงมาเหมือนเป็นขนาดเล็กครับ
น้ำที่ตกจากความสูงจากช่องแคบๆ
เมื่อเดินลงมายังตัวน้ำตก ปากทางของน้ำตกเขาแคบ ที่มีสายน้ำไหลตกลงมาจากที่สูง ปากทางน้ำค่อนข้างจะลึกนะครับไม่สามารถยืนได้ครับ หากลงไปเล่นต้องระวังกันหน่อยนะครับ เพราะน้ำที่นี่เย็นมากครับ
ทางผมและน้องๆอยู่ถ่ายรูปกันสักพักใหญ่ๆครับ ในใจตอนแรกคิดว่าเราถึงจุดหมายแล้ว แต่ที่ไหนได้น้องเจ้าหน้าที่เรียกว่าเราต้องเดินต่อครับ และข้างบนเราจะยังเจอน้ำตกอีกครับ ทางผมก็รีบเก็บกล้องและเดินทางกันต่อ ไปยังจุดมุ่งหมายของเราครับ ซึ่งมีพี่เจ้าหน้าที่เดินนำหน้าไปเตรียมที่นอน และก่อกองไฟไว้รอพวกผม
ช่วงเส้นทางก่อนถึงตัวน้ำตกจุดที่ 1 และทางไปยังจุดอื่นๆก็จะมีป่าไผ่ อยู่เป็นระยะครับ ที่นี่ไผ่เยอะเช่นเดียวกัน บางทีก็ทำให้เดินยากขึ้น บางทีก็เดินง่ายขึ้นเพราะบางช่วงทางลาดชัน 60-70 องศาเรามีต้นไผ่ไว้ยืดดึงตัวเราขึ้นได้
เดินขึ้นจากน้ำตกชั้นที่ 1 เราก็พบน้ำตกอีกชั้นนึงครับ น้ำในจุดนี้ไม่เยอะครับ ผมคิดว่าถ้าน้ำเยอะรับรองสวยแน่ๆครับ แต่ถ้าน้ำเยอะเราจะเดินกันลำบากกว่านี้ครับ จุดนี้ผมแวะถ่ายรูปมาให้ชมกัน ส่วนทีมงานเดินขึ้นไปรอผมที่ด้านบนน้ำตกชั้นต่อไปแล้วครับ พร้อมตะโกนเรียกผมให้รีบขึ้นไป (รู้สึกเหมือนโดนกดดันให้รีบกดชัตเตอร์)
ส่วนของน้ำตกชั้นที่ 2 นี้ผมเดินขึ้นมาอีกจากรูปด้านบน ก็จะเจอชั้นน้ำตกเล็กๆอีกครับ เป็นเสต็ปๆ ครับเหมือนกับว่าชั้นนี้เป็น ชั้น 2 ครึ่งยังไงยังงั้น
ขึ้นมาอีกนิดนึงก็เจอน้ำไหลลงมา เป็นน้ำตกเล็กๆอีกครับ ผมเลยถ่ายรูปสักหน่อยทริปนี้ผมลืมตาตั้งกล้อง บางมุมเลยเก็บรูปมาให้ไม่ได้ครับ รูปที่ได้นี่วางกับก้อนหินทั้งนั้นเลย
น้ำตกชั้นนี้ ผมว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้กันครับ จะเป็นชั้นที่น้ำไหลลงมา น้ำตกขนาดใหญ่เช่นเดียวกันครับ ตัวผมมุดลงไปตรงช่องแคบๆที่น้ำไหลลงมาแล้วก็ถ่ายรูปนี้มาได้ ครับ และแน่นอนครับเส้นทางที่พักของเรารออยู่ข้างบนนี้ครับ เราต้องปีนไปข้างๆขึ้นไปยังตัวน้ำตกเพื่อหาที่พักกันครับ
เมื่อถึงที่พักแล้ว พี่เจ้าหน้าที่ (พี่บัวลอย) จัดเตรียมและสำหรวจพื้นที่ ตั้งก่อกองไฟ ไว้รอผมและทีมงานเรียบร้อยครับ เราหุงข้าวกันด้วยกองไว้กองนี้ครับ และจัดแจงหาที่พัก กางเปลนอนกันครับคืนนี้
สำหรับผมการนอนเปล ทริปน้ำตกเขาแคบนี้ ถือเป็นทริปแรกเลย เพราะส่วนใหญ่เรานอนเต้นท์กันสะมากกว่าครับแถมที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยค้างในป่าเลย ดันนั้นทริปนี้ถือว่าทริปแรกของผมสำหรับนอนเปล และค้างคืนในป่าครับ
ที่พักของเราก็จะติดกับรำธารครับ ซึ่งจะไหลลงไปเป็นน้ำตกครับ เพื่อให้ง่ายต่อการประกอบอาหารครับ ต้มน้ำดื่มและล้างจานช้อน ส่วนน้องก็เอาเห็ดที่เก็บได้ไปล้างเพื่อมาต้มกินครับ เห็นที่ได้มาจะเป็นเห็ดระโงก หรืออาจจะเรียกว่าเห็ดไข่ ครับแต่ที่แน่ๆคนเปิดคนแรกไม่ใช่ผมแน่ครับ ยังไงต้องรอให้มั่นใจก่อน
ตกกลางคืนผมก็นั่งพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เรื่องของป่า และการดูแลรักษา สอบถามความรู้ต่างๆที่ผมอยากรู้แลกเปลี่ยนความคิดกันและกันเกี่ยวกับการดูแลป่า และสัตว์ป่า สิ่งเหล้านี้เราไม่สามารถหาได้ที่ไหน เพื่อนๆต้องมาพบมาเจอกันเองนะครับ
พอถึงตอนเช้าก้เตรียมเก็บข้าวของ เต้นท์และเปลให้เรียบร้อย เพื่อรอเวลาสำหรับการเดินทางกลับ ผมมาค้างแค่คืนเดียวครับ และส่วนเมื่อคืนฝนได้ตกลงมาครับ ทำให้นอนเย็นสบายครับในป่าอากาศไม่ร้อนและอีกอย่างที่ผมแปลกใจคือไม่มียุงครับ ตลอดเส้นทางที่เดินมาไม่เจอยุงสักตัวเลยครับ อาจจะมีแต่ผมไม่เห็นก็ได้ครับ
แต่สิ่งที่ผมเจอนอกจากยุงคือ เห็บ กับตัวริ้น มีทีมงานโดนเห็บกันไปสองสามตัวครับ ส่วนผมเจอแต่มันใต่ๆที่แขนครับยังไม่ทันได้กัด ลักษณะก็จะเหมือนกับเห็บก้ามปูที่ดูดเลือดหมา นี่แหละครับเพียงแต่ตัวมันจะดูแข็งแรงกว่าเห็บบ้านๆของเราครับ สีก็จะออกเทาๆครับ
นอกจากนี้ผมเจอตัวทากด้วยครับ แต่เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าที่นี่ไม่มีเพราะพวกเขาไม่เคยเจอ ผมลองสอบถามพี่ๆที่เดินบ่อยๆที่เขาแคบก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มี แต่ที่แน่ๆผมเจอไม่ผิดตัวครับ แถมได้จับมันออกด้วยมือของตัวเองครับ จึงมั่นใจได้ว่าบางจุดอาจะมีครับ ดังนั้นอาจจะต้องระวังกันไว้บ้างก็ดีครับ
เราออกเดินทางจากที่พักมาตอน 10 โมงเช้าครับ และลงมายังจุดหมายในตอนบ่ายโมงครับ สำหรับทริปนี้ทำให้ผมได้ประสบการณ์มากมาย และได้รู้ว่าหากเราเที่ยวป่า หรือเดินป่าควรจะเตรียมอะไรไปบ้างครับ ผมเขียนคำแนะนำให้สำหรับมือใหม่สำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมไป หากท่านสนใจจะไปทริปนี้ครับ
ปลายทางที่เราเดินลงมาถึงคือ น้ำตกเจ็ดคต ครับมาถึงประมาณ บ่ายสามโมงได้ครับ ถ่ายรูปน้ำตกเจ็ดคตมาฝากครับ และหลังจากนั้่นผมกับทีมงานก็เดินกลับไปยังที่ทำการครับ ถือเป็นการจบทริปครับผม สำหรับทางเดินขากลับผมไม่ได้อธิบายอะไรมากครับ เพราะโม้ไปเยอะแล้วในตอนขามา ขากลับไม่มีน้ำตกครับดังนั้นเราเดินกับอย่างเดียวเลยครับ สำหรับเห็ดก็ไม่ได้ถ่ายเพราะซ้ำๆกันกับที่ถ่ายมาแล้วครับ
สำหรับท่านที่สนใจจะไปเดินชมความงามที่น้ำตกเขาแคบนะครับผมมีเบอร์เจ้าหน้าที่ให้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมครับ สำหรับข้อมูลที่เพื่อนๆต้องการ ที่ไม่มีอยู่ในบทความนี้ครับอย่างไรถามตรงได้เลยครับ
เบอร์ติดต่อสำหรับเจ้าหน้าที่นำทาง
โทรติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง หากสมาชิกที่ต้องการติดต่อสอบถาม อย่างไรรบกวนติดต่อในเวลาทำการนะครับ
- 095-6324-449 (พี่บัวลอย)
คำแนะนำสำหรับคนเดินป่ามือใหม่